แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘
**********************
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ค. ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘
ข. ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ ง. ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘
ตอบ ค. ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘
2. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด
ก. ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘ ค. ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘
ข. ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘ ง. ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๘
ตอบ ข. ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๘
3. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันใด
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 60 วัน
ค. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน
ง. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน
ตอบ ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๑ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
4. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ ถูกตราขึ้นโดย
ก. คำแนะนำของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ข. คำยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ค. คำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ง. คำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ตอบ ค. คำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
5. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ มีกี่มาตรา
ก. 20 มาตรา ค. 15 มาตรา
ข. 12 มาตรา ง. 10 มาตรา
ตอบ ข. 12 มาตรา
6. ผู้รับสนองพระบรมราชโองการพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ คือใคร
ก. นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ค. หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
ข. หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ง. นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
ตอบ ก. นายสัญญา ธรรมศักดิ์
7. ที่ราชพัสดุ หมายความว่าอย่างไร
ก. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเป็นของแผ่นดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดิน
ข. อสังหาริมทรัพย์สำหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกัน
ค. อสังหาริมทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นนิติบุคคลและขององค์การปกครองท้องถิ่น
ง. อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด
ตอบ ง. อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด
มาตรา ๔ ที่ราชพัสดุ หมายความว่า อสังหาริมทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด เว้นแต่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ดังต่อไปนี้
(๑) ที่ดินรกร้างว่างเปล่า และที่ดินซึ่งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ้งหรือกลับมาเป็นของแผ่นดินโดยประการอื่นตามกฎหมายที่ดิน
(๒) อสังหาริมทรัพย์สำหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นนิติบุคคลและขององค์การปกครองท้องถิ่นไม่ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุ
8. หน่วยงานใดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ
ก. กรมที่ดิน
ข. กระทรวงมหาดไทย
ค. กระทรวงการคลัง
ง. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ตอบ ค. กระทรวงการคลัง
มาตรา ๕ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ
9. ที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรมใดได้มาโดยการเวนคืนหรือการแลกเปลี่ยนหรือโดยประการอื่น ให้กระทรวงการคลังเข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ราชพัสดุนั้น เว้นแต่ที่ดินใด
ก. ที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดิน
ข. ที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาที่ดิน
ค. ที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ง. ที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ตอบ ง. ที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรมใดได้มาโดยการเวนคืนหรือการแลกเปลี่ยนหรือโดยประการอื่น ให้กระทรวงการคลังเข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ราชพัสดุนั้น ทั้งนี้ยกเว้นที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
10. ใครเป็นประธานใน“คณะกรรมการที่ราชพัสดุ”
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ข. ปลัดกระทรวงการคลัง
ค. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ง. อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มาตรา ๖ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการที่ราชพัสดุ”ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ปลัดกระทรวงการคลังเป็นรองประธาน ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง*เป็นกรรมการ อธิบดีกรมธนารักษ์เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้อำนวยการกองรักษาที่หลวง กรมธนารักษ์เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
11. “คณะกรรมการที่ราชพัสดุ” มีกี่คน
ก. 10 คน ค. 15 คน
ข. 11 คน ง. 16 คน
ตอบ ข. 11 คน
12. ข้อใดคือหน้าที่ของ “คณะกรรมการที่ราชพัสดุ”
ก. กำหนดนโยบายเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ
ข. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการปกครองดูแล บำรุงรักษาเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ
ค. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการใช้และจัดหาประโยชน์ เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ให้คณะกรรมการมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์และวิธีการในการปกครองดูแล บำรุงรักษา ใช้และจัดหาประโยชน์ เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ
13. หลักเกณฑ์และวิธีการที่“คณะกรรมการที่ราชพัสดุ”กำหนด ให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. ประกาศกระทรวง ค. พระราชกฤษฎีกา
ข. กฎกระทรวง ง. พระราชบัญญัติ
ตอบ ข. กฎกระทรวง
หลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ให้ตราเป็นกฎกระทรวง
14. การประชุมของคณะกรรมการต้องมีจำนวนเท่าใดจึงเป็นองค์ประชุม
ก. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ข. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ค. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ง. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด
ตอบ ก. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
มาตรา ๗ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งจำนวนของกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไม่อยู่ หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
15. การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุเฉพาะที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ให้กระทำโดยกฎหมายใด
ก. ประกาศกระทรวง ค. พระราชกฤษฎีกา
ข. กฎกระทรวง ง. พระราชบัญญัติ
ตอบ ง. พระราชบัญญัติ
มาตรา ๘ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุเฉพาะที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ให้กระทำโดยพระราชบัญญัติ ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุอื่น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงการตราพระราชบัญญัติตามวรรคหนึ่ง ให้มีแผนที่แสดงเขตที่ราชพัสดุแนบท้ายด้วย
16. ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือถอนการหวงห้ามให้ทำโดยตราเป็นกฏหมายใด
ก. ประกาศกระทรวง ค. พระราชกฤษฎีกา
ข. กฎกระทรวง ง. พระราชบัญญัติ
ตอบ ค. พระราชกฤษฎีกา
มาตรา ๙ ที่ราชพัสดุเฉพาะที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เมื่อเลิกใช้เพื่อประโยชน์เช่นนั้น หรือเมื่อสิ้นสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว หรือที่ราชพัสดุที่ทางราชการหวงห้ามไว้และทางราชการไม่ประสงค์จะหวงห้ามอีกต่อไป ให้ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือถอนการหวงห้ามแล้วแต่กรณี โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้มีแผนที่แสดงเขตที่ดินแนบท้ายพระราชกฤษฎีกานั้นด้วย
17. ในระหว่างที่ยังมิได้ออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามมาตรา ๖ และมาตรา ๘ให้ใช้ระเบียบการปกครองและจัดประโยชน์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างราชพัสดุ พุทธศักราช ๒๔๘๕ บังคับต่อไป แต่ต้องไม่เกินกี่เดือน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ก. ไม่เกิน 3 เดือน ค. ไม่เกิน 5 เดือน
ข. ไม่เกิน 4 เดือน ง. ไม่เกิน 6 เดือน
ตอบ ง. ไม่เกิน 6 เดือน
มาตรา ๑๐ ในระหว่างที่ยังมิได้ออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามมาตรา ๖ และมาตรา ๘ ให้ใช้ระเบียบการปกครองและจัดประโยชน์ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างราชพัสดุ พุทธศักราช ๒๔๘๕ บังคับต่อไปจนกว่าจะได้ออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวเท่าที่ไม่ขัดกับพระราชบัญญัตินี้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
18. บรรดาที่ดินใดให้โอนมาเป็นของกระทรวงการคลัง
ก. บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม ได้มาโดยกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
ข. บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม ได้มาโดยการแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์กับเอกชน
ค. บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม ได้มาโดยประการอื่นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๑ บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรม ได้มาโดยกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ หรือโดยการแลกเปลี่ยนกรรมสิทธิ์กับเอกชน หรือโดยประการอื่นก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้โอนมาเป็นของกระทรวงการคลัง
19. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มาตรา ๑๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
20. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คืออะไร
ก. ปัจจุบันไม่มีกฎหมายว่าด้วยการปกครองดูแลรักษาที่ราชพัสดุให้เป็นไปโดยมีระเบียบและหลักเกณฑ์ที่แน่นอน
ข. แก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนส่วนราชการ
ค. เกิดปัญหายุ่งยากในทางปฏิบัติหลายประการ
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ค